ผัวแค้น เจอเมียนอนกกชู้ ตัดเจ้าโลกทิ้งขยะ! รีบเก็บให้หมอต่อ

หนุ่มกำแพงเพชร กลับจากทำงานก่อสร้างที่ กทม. เปิดประตูเข้าบ้านตอนเช้ามืด เจอภาพบาดตา เมียนอนอยู่กับชู้ โมโหสุดขีด คว้าเหล็กตีหัวแตก ก่อนใช้คัตเตอร์ปาดอวัยวะเพศขาดโยนทิ้งขยะ ฝ่ายเมียเก็บพร้อมพาส่ง รพ. ให้หมอต่อได้

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 59 ร.ต.อ.นฤพนธ์ ดาวแจ้ง พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งจาก รพ.กำแพงเพชร ว่า มีคนถูกตัดอวัยวะเพศถูกส่งมารักษาตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายโต้ง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แพทย์ได้ทำการต่ออวัยวะเพศให้แล้ว และมีบาดแผลถูกตีบริเวณหน้าผากและศีรษะแตก โดยมี นางส้ม (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร คอยดูแล

สอบถามเบื้องต้น นางส้ม แจ้งว่าผู้ก่อเหตุคือ นายแมน (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สามีของตนเอง หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วน นางส้ม รีบนำตัว นายโต้ง พร้อมทั้งอวัยวะเพศที่ถูกตัดขาดทิ้งไว้ในถังขยะหน้าบ้านส่ง รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล และถูกส่งตัวต่อมายัง รพ.กำแพงเพชร ส่วนรายละเอียดอื่น นางส้ม ขอไม่ให้การในขณะนี้

จากนั้น เจ้าหน้าที่ประสานให้สายตรวจ ต.นาบ่อคำ ตรวจสอบ จนควบคุมตัว นายแมน ได้ที่บ้านเกิดเหตุ ร.ต.อ.นฤพนธ์ เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านเป็นของ นายแมน บนที่นอนมีคราบเลือด ที่พื้นหน้าบ้านมีกุญแจดัดเหล็กยาวประมาณ 70 ซม. ทิ้งอยู่ สอบสวนเบื้องต้น นายแมน เปิดเผยว่า ทำงานเป็นช่างก่อสร้างอยู่ กทม. ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ส่งเงินกลับมาให้ นางส้ม ตลอด ระยะหลังระแคะระคายว่าภรรยามีผู้ชายมาติดพัน

จนเมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ กลับจาก กทม. มาถึงบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนพบภาพบาดตา เห็น นายโต้งกับภรรยานอนอยู่ด้วยกันบนที่นอน ด้วยความแค้นจึงใช้กุญแจดัดเหล็กตีที่ศีรษะนายโต้ง 2 ครั้งจนแตก ส่วนภรรยาคิดว่าตนจะเอามีดแทงจึงป้องกัน นายโต้ง โดยคร่อมร่างไว้ นายแมน จึงใช้มีดคัตเตอร์ซึ่งติดตัวอยู่ปาดเข้าที่อวัยวะเพศ นายโต้ง จนขาด แล้วนำไปทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ออกไป แต่ก็กลับบ้านมารอมอบตัวกับตำรวจ ส่วนสาเหตุทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบและแค้นอย่างที่สุด

ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้เรียกตัว ร.ต.อ.นฤพนธ์ ไปสอบถามถึงรายละเอียด พร้อมให้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากใช้เหล็กเป็นอาวุธตีถึง 2 ครั้ง ก่อนตัดอวัยวะเพศ ส่วน นายแมน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้รอการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง.

ที่มา:http://www.thairath.co.th/content/608290